วัคซีน ปอดอักเสบ

วัคซีน ปอดอักเสบ

วัคซีน ปอดอักเสบ

 

รู้จักกับ วัคซีน ปอดอักเสบ เป็นวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส (Pneumococcus) ซึ่งในบางเคสของการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 (COVID-19) นั้น ยังเป็นผลมาจากไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ก่อนแล้ว

ดังนั้น วัคซีนโรคปอดอักเสบ หรือ Pneumococcus Vaccine จึงเป็นหนึ่งในวัคซีนสำคัญที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 นอกเหนือจากวัคซีนโควิด 19 และไข้หวัดใหญ่ประจำปี อันเนื่องมาจากโรคปอดอักเสบอาจจะก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้

ปัจจุบัน วัคซีนปอดอักเสบจะป้องกันเฉพาะเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส แม้จะป้องกันได้ไม่ครบทุกสายพันธุ์ แต่จะครอบคลุมสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและก่อโรครุนแรงอยู่แล้ว โดยวัคซีนปอดอักเสบจะผลิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ตายแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในร่างกาย

ชนิดของวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ

Pneumococcal Conjugate Vaccine: PCV13 หรือ วัคซีนป้องกันปอดอักเสชนิดคอนจูเกต 13 สายพันธุ์เป็นวัคซีนที่เกิดจากการจำแอนจิเจนของเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสไปจับกับโปรตีนพาหะชนิดหนึ่ง กระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันได้ดี และป้องกันโรคได้นานขึ้น ครอบคลุมปอดอักเสบทั้งชนิดไม่ลุกลามและชนิดลุกลาม แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุที่แพทย์เห็นสมควร

Pneumococcal Polysaccharide Vaccine: PPSV23 หรือ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบชนิดโพลีแซคคาไรด์ 23 สายพันธุ์ คือวัคซีนที่ใช้แอนติเจนเพียงอย่างเดียวในการกระตุ้นถูมิคุ้มกันร่างกาย มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่ประมาณ 3 – 5 ปี แต่อาจจะไม่กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีได้

ความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ

ช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อนิวโมคอคคัสร่วมกับโรคดังกล่าวได้ด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้อาการที่เป็นอยู่ทวีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้นอีก และที่สำคัญคือ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ไม่อาจป้องกันปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสได้ การฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบเพิ่มเติมจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ดังนั้นโรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัสมักก่อให้เกิดอาการในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ หายใจลำบาก มีไข้ หรือรู้สึกไม่สบาย ทว่าหากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนอันนำไปสู่การเสียชีวิตได้ เช่น ปอดบวม การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จึงจำเป็นจะต้องเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบเหมาะกับใครบ้าง

ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัวในทุกช่วงวัย

ผู้ที่มีโรคหืด โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคตับ เป็นต้น

ผู้ที่ติดสุราเรื้อรัง

ผู้ที่สูบบุรีเป็นประจำ

ผู้ที่ไม่มีม้ามหรือม้ามทำงานผิดปกติ

ผู้ที่น้ำไขสันหลังรั่ว

ผู้ที่ใส่ชุดประสาทหูเทียม

ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากปัญหาสุขภาพ อย่างเช่น โรคมะเร็ง หรือการติดเชื้อ HIV การทำบำบัดเคมี การใช้ยาบางชนิด และการปลูกถ่ายอวัยวะ

โดยผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงและไม่เคยฉีดวัคซีนปอดอักเสบมาก่อนควรเริ่มที่วัคซีน PCV13 แล้วเว้นระยะห่าง 1 ปี จึงฉีดวัคซีน PPSV23 สำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับชนิดของวัคซีนปอดอักเสบที่ควรฉีดและระยะเวลาในการฉีดที่เหมาะสม

วัคซีนโรคปอดอักเสบสามารถฉีดร่วมกันกับวัคซีนอื่นๆได้หรือไม่

มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าการให้เด็กและผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนปอดอักเสบ และไข้หวัดใหญ่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นั้น จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลเสีย

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่อาจฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบพร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ในวันเดียวกัน แต่สำหรับวัคซีนโรคโควิด-19 ควรฉีดห่างจากวัคซีนปอดอักเสบ หรือวัคซีนชนิดอื่น ๆ อย่างน้อย 14 วัน หากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเสมอ

ผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบมีอะไรบ้าง

วัคซีนป้องกันปอดอักเสบมักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกาย ผู้รับการฉีดวัคซีนอาจพบเพียงอาการปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีดยา มีไข้ เบื่ออาหาร หงุดหงิดง่าย รู้สึกเหนื่อย ปวดศีรษะ หรือปวดกล้ามเนื้อ บางรายอาจเกิดอาการแพ้วัคซีนที่รุนแรง (Anaphylaxis) แต่ก็พบได้น้อยมาก

การเตรียมความพร้อมก่อนฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ

ในเบื้องต้นผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนปอดอักเสบควรนอนหลักพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน หากพบความผิดปกติ หรืออาการป่วยใดๆ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนการฉีดวัคซีน

การป้องกันโรคปอดอักเสบด้วยวิธีอื่นๆ

นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคยังมีอีกหลายวิธีที่ควรทำควบคู่กัน โดยต้องอาศัยความมีวินัย ความระมัดระวัง และควรฝึกให้เป็นนิสัย จึงจะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้มากที่สุด เช่น หมั่นล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ สวมหน้ากากอนามัยหรือปิดปากด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ขณะไอหรือจาม งดสูบบุหรี่ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งจากการออกกำลังกาย การนอนหลับ หรือการรับประทานอาหาร เป็นต้น

วัคซีนป้องกันปอดอักเสบจัดเป็นวัคซีนเสริม ไม่ใช่วัคซีนพื้นฐานฟรีที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล จึงมีค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานพยาบาล ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นร่วมกับแพทย์แล้วจะเลือกฉีดหรือไม่ก็ได้ แต่วัคซีนชนิดนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการเสริมสร้างเกราะป้องกันร่างกายให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือหากมีสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่กังวลและอยากฉีดป้องกันไว้ก่อนก็ทำได้เช่นกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย HappyLung.Pfizer.th